ขายของออนไลน์ ขายอะไรดี กำไรเยอะ ลงทุนน้อย ธุรกิจยั่งยืน

ขายของออนไลน์ ขายอะไรดี กำไรเยอะ ลงทุนน้อย ธุรกิจยั่งยืน

หลายๆ คนคงอยากเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ แต่คงยังมีคำถามในใจเรื่อง ขายของออนไลน์ ขายอะไรดี กำไรเยอะ ลงทุนน้อย ธุรกิจยั่งยืน ใช่มั้ยครับ – ช่วงเวลาเกือบปีที่ผ่านมา ผมได้ลองทำโปรเจคธุรกิจ Dropshipping โดยนำสินค้าจาก AliExpress ไปวางขายบนเว็บไซต์ชื่อดังต่าง ๆ อาทิเช่น แอมะซอน อีเบย์ ยอดขายมีเรื่อยๆ ปริมาณการสั่งซื้อต่อเดือนโดยเฉลี่ย ถือว่าดีมาก ยอดขายหลัก $1,000 ขึ้นไป ยอดรายได้ดูดีเลยทีเดียว แต่พอนั่งคำนวณต้นทุน กำไร มูลค่าการจัดการต่างๆ แทบเข่าทรุด เงินลงทุนจมหายไปไหนไม่รู้ เพราะกำไรเหลือน้อยมากๆ ไม่ถึง 6% ของรายได้ นั่งวิเคราะห์หาสาเหตุดู ก็พบว่า กำไรที่่หายไปนั้น หมดไปกับค่าธรรมเนียมต่างๆ อีกทั้งเรื่องของราคาที่ต้องต่อสู้กับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน กลัวขายไม่ได้ก็ลดราคากันไป ไม่ก็โดนคู่แข่งตัดราคาบ้าง โดนกลั่นแกล้งบ้าง และเรื่องนโยบายต่างๆ ที่ทางผู้ให้บริการเปลี่ยนไปมาเสมอ อย่างในแอมะซอน กว่าจะลงขายสินค้าบางประเภทได้ ต้องยื่นเอกสารยืนยันขออนุมัติกันให้วุ่นวายเลยทีเดียว เสียเวลามากๆ เมื่อเปรียบกับการขายบนเว็บไซต์เราเองจะลงขายอะไรก็ได้ สินค้ากลุ่ม Sexual Wellness ยังลงขายได้เลย เพราะเป็นเว็บไซต์เราเอง ฮา! ผมเลยตัดสินใจทำเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าขึ้นมาเสียเองเลย แต่ก็ยังคงนำเอาสินค้าจาก AliExpress มาลงขายอยู่ เพราะกำไรค่อนข้างเยอะพอสมควร อีกทั้งธุรกิจ Dropshipping นั้น เราแค่โปรโมทสินค้าเท่านั้น ส่วนที่เหลืออย่าง การแพคกิ้งสินค้า การจัดส่ง ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Suppiler ไป เรารับเงินลูกค้าก่อน แล้วเอาเงินไปซื้อของ กินส่วนต่างกำไร สบายๆ ไม่ต้องลงทุนซื้อของมาสต๊อกไว้ก่อนให้เงินจมทุน

ขายอะไรก็ได้ ลองเดินดูตลาดนัดสิ มีของขายทุกอย่างเลย และถ้ามีผู้ผลิตสินค้านั้นๆ ออกมา ก็แปลว่าสินค้านั้นย่อมมีผู้ซื้อ เพราะตรรกะหนึ่งผมเชื่อว่า ผู้ผลิตเขาต้องทำ research มาก่อนแล้วล่ะ ว่าสินค้าที่เขาผลิตนั้น มีกลุ่มคนที่ต้องการซื้ออยู่ นั่นก็คือ ผู้ซื้อนั่นแหล่ะ แต่เราจะหากลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเจอหรือป่าวเท่านั้นเอง ขายอะไรดี ไม่สู้คิดว่าจะขายให้กับใคร Target Group ก็สำคัญเช่นกัน หรือ หากผู้ผลิตทำตามใจชอบ คือ อยากผลิตลูกเดียวไม่ทำ Research มาก่อน ออกแนว Indy หน่อยๆ ผมก็ว่าสินค้านั้นก็ขายได้ แต่จะขายดีหรือไม่นั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่อยากลืมว่าสินค้ากลุ่มเฉพาะมากๆ (Niche) มักขายดีเสมอ แต่ในมุมของเรา เราเองไม่ได้ขายสินค้าชิ้นเดียวประเภทเดียวเสียเมื่อไหร่ว่ามั้ยครับ? สินค้ามีมากมายให้เรานำมาขาย ขายไปเถอะครับอะไรก็ได้ ยิ่งไม่ต้องลงทุนก่อนด้วยแล้ว จะขายอะไรก็ได้ หากทำธุรกิจ Dropshipping

สินค้าในเว็บไซต์ของ AliExpress นั้น ถือได้ว่าราคาย่อมเยามาก เมื่อเปรียบกับตลาดอื่นๆ ผมเองก็เป็นพ่อค้ามานาน เมื่อก่อนขายสินค้าเปิดท้ายตามตลาดนัด เวลาไปซื้อของก็ไปซื้อที่สำเพ็งอย่างที่เรารู้ๆ กันนั่นแหล่ะกัน ซึ่งตลาดสำเพ็งส่วนใหญ่ก็สั่งสินค้าจากจีนมาขายแต่ไหนแต่ไรมาเป็นเวลา 40-50 ปีแล้ว โลกมันเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน รูปแบบการค้าก็ขยายตัวมากขึ้น มีหลายๆ รูปแบบ แต่การค้าการขายของก็ยังไปได้เรื่อยๆ และขยายตัวไม่มีที่สิ้นสุด คงอยู่ที่แนวคิดของการสร้างธุรกิจและพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แล้ว ผมเคยสั่งสินค้าจาก AliExpress มาขายเองด้วยซ้ำ เพราะราคาถูกกว่าสำเพ็งกว่าครึ่ง (สินค้าแบบเดียวกัน) ทำให้เรามีกำไรมากขึ้นเห็นๆ

กำไรเยอะ? – ปัจจุบันผมเองทำธุรกิจ Dropshipping ขายสินค้าบนเว็บไซต์ตัวเอง โปรโมทขายสินค้าผ่าน FB Ads, PPC, SEO เป็นหลัก ส่วนตลาดรองๆ ก็ยังมีสินค้าที่วางขายโปรโมทอยู่บน Platform อื่นๆ อย่าง อีเบย์ เป็นต้น กำไรสุทธิต่อหน่วยการขายอยู่ประมาณ 40% ซึ่งถือว่าโอเคมากๆ แล้ว หักรายจ่ายทั้งหมดแล้วนะครับ (40% คือเหลือเก็บ) เพราะสินค้าที่นำมาขายจาก AliExpress นั้น สามารถบวกทำกำไรได้ถึง 3 เท่าของราคาสินค้าเลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น สินค้าต้นทุน $10 แต่ราคาขาย(ตลาดทั่วไป) สามารถตั้งราคาขายได้ถึง $25 – $32 เลยทีเดียว หากไม่เชื่อคุณลองแวะดูแว่นตาจักรยานที่ขายกันอยู่สิครับ ผมเคยซื้อจากร้านขายจักรยานมาในราคา 1,450 บาท แต่ลองนึกสนุกเข้าไปหาในเว็บ AliExpress ดู รุ่นเดียวกันแบบเดียวกัน ในเว็บอลีขายอยู่ $16.82 คิดเป็นเงินไทยคูณ 35 บาท เพิ่งจะ 600 บาทเอง (คิดเป็นเลขกลมๆ) กำไรเยอะครับ คนที่มีมุมมองพ่อค้าแม่ค้าผมว่าจะมองมุมนี้ออก

ทั้งนี้ทั้งนั้น หากท่านใดสนใจที่จะเรียนรู้แนวทางการทำธุรกิจ Dropshipping ที่ผมกำลังทำอยู่ ผมได้เขียน eBook นำเสนอไว้เป็น How to จับมือทำกันเลย สนใจสามารถสั่งซื้อได้ คลิกที่ลิงค์เบาๆ ได้เลยครับ >> eBook เผยเคล็ดลับคว้าเงินแสน จับเงินล้านด้วย Dropshipping Business – AliExpress + WebStore <<

• Facebook
• Twitter
• Line